โรงพยาบาลเมืองพัทยา

เรื่องที่จอดรถ ควรจัดการให้มีมีระเบียบกว่านี้นะ พนักงานอยู่อาคารจอดรถพูดได้แย่มาก ใช้ถ่อยคำได้แบบเหมือนไม่ได้รับการอบรมมาเลย แก่แล้วนะ แต่ใช้ถ่อยคำไม่โตตามอายุเลย ทางโรงพยาบาลไม่คัดเลือกบุคคลากรในการมาทำงานเลยหรอ ให้วนรถเล่นอยู่ได้ ไม่มีก็คือไม่ต้องให้ไปวนไง อีกคนบอกให้วน แต่คนที่พูดแย่ๆ กลับมาบอกว่าถ้าอยากได้ที่จอดก็มาแต่เช้าสิ ออกไปจอดข้างนอกนู้น เต็มก็คือเต็ม เอ้าาาคือก็รู้ว่าเต็มละให้มาวนทำไมมม!!!!! และอีกอย่างคำพูดมากมายแค่เลือกใช้คำพูดดีๆคงจะไม่ลำบากมากหรอกมั้ง บุคคลากรแบบนี้ทำให้ รพ. ดูไม่โปรเลยนะ ควรมีการจัดการบุคคลแบบนี้นะ

เปนรพ.ที่แย่ที่สุดในชีวิตที่เคยใช้บริการมาแต่ก็ต้องทนเพราะเลือกเปนรพ.ที่รับรองสิทธิ์ปกส.ที่ใกล้ที่พักและที่ทำงานเพราะสะดวกเดือนที่แล้วปวดหูมากทนไม่ไหวไปนอกเวลาก็โดนพยาบาลห้องฉุกเฉินด่ามาวันนี้ปวดหัวบวกกับแสบโพงจมูกทนไม่ไหวก็ลางานเปนชม.มาแต่พยาบาลปฏิเสธคนไข้รายละเอียดเยอะพูดไปก็ไม่หมดร้องเรียนก็หลายรอบแต่ก็มิได้นำพาไม่รู้ใครเปนผู้บริหารอยากจะคุยด้วยสักครั้งจริงๆจากใจคนไข้ที่จ่ายปกส.ทุกเดือนแต่เวลาไปหาหมอทางรพ.ปฏิเสธการรักษาเหตุเพราะไม่ฉุกเฉินมากพอต้องรอให้เฮือกหายใจสุดท้ายถึงจะรับรักษาปกติม่นอกเวลาก็ได้ตรวจตลอดมาหลังๆโดนพยาบาลด่าและไล่กลับตลอด วันนี้ปวดหัวข้างเดียวแสบโพรงจมูกความดันขึ้น160เวียนหัวแต่สิ่งที่พยาบาลพูดคือคนไข้จะรอมั้ย20:00ต้องไปห้องฉุกเฉินแต่ถึงยังไงห้องฉุกเฉินก็ตีตกเพราะไม่ฉุกเฉินแล้วฉันต้องรอมั้ยล่ะรอไปก็ไม่ได้ตรวจแถมโดนด่าอีก

บริการได้เี้ยมากนะคะ ถ้าไม่เต็มใจบริการก็กลับบ้านนอนค่ะ พนักงานที่ห้องฉุกเฉิน สวยนะคะ แต่ปากห_า สุดๆ ครั้งสุดท้ายพอเลย ควรพิจารณาได้แล้วนะคะ มีแต่รีวิวห่วยๆทั้งนั้นเลย 🤗

บริการเหี้ยตั้งแต่จุดประชาสัมพันธุ์ยันจุดตรวจ มาเสียเงินไม่ได้มาขอฟรี พยาบาลพูดจาแย่ที่สุด

เมื่อ​วันที่​ 10 มิ.ย. 2567 ไปตรวจสุขภาพ​ร่างกายแล้วได้เจาะเลือดที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา​ เจ้าหน้าที่​ห้องแล็บ​ เจาะเลือดที่แขนประมาณ​ 4 -​ 5 เข็ม​ แต่ไม่ได้เจาะด้วยวิธีปกติ​ เจ้าหน้าที่​ใช้เข็มเจาะเข้าไปในเส้นเลือดโดยเป็นเข็มเปล่าๆ​ ถอดหลอดสลิงออก​ ภาพที่ผู้ป่วยเห็นคือ... เลือดหยดออกจากเข็มทีละหยด​ ลงในหลอดเก็บเลือด​ เจ้าหน้าที่​อ้างว่า​ "ผู้ป่วยเส้นเลือดเล็ก​ เจาะเลือดไม่ออก" ซึ่งเลือดของผู้ป่วยก็ไหลออกนอกเบาะรองแขน​และเจ้าหน้าที่​ใช้สำลีซับหยดเลือดที่หยดไหลออกลงเบาะ​...... จากนั้นผู้ป่วยก็มีอาการหน้ามืดและเป็นลมภาพตัดไปเลยค่ะ​ มืดไปหมด​ มองไม่เห็นอะไรเลย​ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ห้องฉุกเฉิน​ และพบว่าเจ้าหน้าที่ยังคงเจาะเลือดไม่เสร็จทั้งที่แขนมีรอยชกช้ำจากเส้นเลือดแตกจนพรุน หมอแผนกห้องฉุกเฉิน​จึง​ช่วยโดยใช้เข็มเจาะเลือดอีกข้างด้วยวิธีทางการแพทย์​ปกติ​ 1 เข็ม​ที่แขนข้างขวา​และเข็มที่​ 2 ที่แขนข้างซ้าย​แล้วจบ​​ เจาะสำเร็จ​โดยที่ไม่มีอาการฟกช้ำเลยค่ะ​ เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน​บอกว่า​ "รอยเข็มที่แขนเยอะมาก​ ไม่เคยเจาะเลือดคนไข้ด้วยปริมาณที่เยอะขนาดนี้มาก่อน" เห็นได้ชัดว่าหมอแผนกฉุกเฉิน​มีความชำนาญและเป็นมืออาชีพมากกว่า.... หมอห้องแล็บควรได้รับใบเตือนหรืออบรมใหม่นะคะ​ การปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง​ ผู้ควบคุม​ดูแลในระดับที่สูงกว่าควรเข้ามาตักเตือนและเทรนด์ใหม่เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุซ้ำอีกกับคนไข้รายต่อไป​ อยากทราบว่า​ ผู้ป่วยสามารถเอาเรื่องหรือฟ้องร้องอะไรเจ้าหน้าที่​ในห้องแล็บได้ไหมคะ​ เมื่อเป็นลม​ไ​ป 2 รอบ​ รอบที่​ 1 เป็นลมในห้องแล็บแล้วตื่นขึ้นมาอีกทีในห้องฉุกเฉิน​ รอบที่​ 2 หลังจากผู้ป่วยฝืนทานอาหารเสร็จแล้วไปส่งเอกสารที่แผนกตรวจสุขภาพ​ ก็เป็นลม​ เวียนหัวอีกครั้ง​ รู้สึกคลายจะคลื่นไส้​ ปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิด สลบไปตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ​ 14:00 -​ 16:30 ตื่นขึ้นมาก็อยู่บนเตียงที่แผนกตรวจสุขภาพชั้น​ 5​ หมอที่แผนกตรวจสุขภาพ​ให้การว่า เป็นผลจากการที่เจาะเลือดมากเกินไปค่ะ ถ้าอาการแย่ลงอาจต้องนอนที่โรงพยาบาล​ แต่หลังจากที่นอนพักร่างกา​ยแล้ว​อาการปวดหัวยังคงมีอยู่เล็กน้อย​ มีอาการปวดที่แขนไล่ยาวไปถึงสะบัก​ ต้นคอ​ หน้าผากและคิ้ว​ แขนมีอาการบวมนูน​ใหญ่ผิดปกติ​ มีเจ้าหน้าที่บุรุพพยาบาลคอยดูแลและส่งลงลิฟต์จนถึงหน้าประตูโรงพยาบาล ไม่ได้อยากจะร้องเรียนหรือมีจุดประสงค์​จะเอาผิด​ด้วยวิธีทางกฎหมาย​ แต่ความผิดพลาดและควาสะเพร่าของหมอ​ ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี​ จรรยาบรรณ​ของหมอคืออะไร​ ฝากนำไปแก้ไขปรับปรุง​ด้วยค่ะ​ ขึ้นชื่อว่าหมอ​ คนไข้ไว้ใจและฝากชีวิตไว้ในกำมือ​ ช่วยรักษามาตรฐาน​ความเป็นแพทย์ให้อยู่ในระดับที่ดีด้วยค่ะ ดิฉันคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ป่วยรายอื่นๆ​ ที่เข้ารับการผ่าตัดใหญ่จะได้รับการดูแลรักษาในระดับมาตรฐาน​คุณภาพ​ที่ควรจะเป็น แต่ถ้าภายใน​ 3-4 วัน​ หลังจากพักดูอาการตัวเองที่บ้านแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น​ ต้องลางาน​ สูญเสีย​รายได้เพราะการเจาะเลือดที่ผิดพลาดของหมอ​ คงจะต้องดำเนินการกับหมอตามลำดับ​ ถ้ามันต้องปรึกษาทนาย​ ต้องฟ้องร้องกัน​ ต้องเอาผิดตามกฎหมาย​จริงๆ ก็คงต้องทำเพื่อรักษาสิทธิ​ของคนไข้​ ถ้าคนไข้ไม่รักษาสิทธิ์​ของตัวเอง หมอก็คงไม่กระเตื้อง​ จิตสำนึก​ก็คงไม่เกิด