โรงพยาบาลบ้านด่าน

ถือว่าบริการแย่มากค่ะ พูดจาไม่ดีเลยทั้งที่ไม่มีคนป่วยรอคิวสักคนเนื่องจากไปตอน 4 ทุ่มกว่าๆ(พาน้องไป) คำแรกที่เจ้าหน้าที่พูด =มาโรงพยาบาลใส่แมสด้วยค่ะ โควิดกับไข้หวัดมีทุกวัน (เราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดในใจ เคสฉุกเฉินเลยรีบมา แล้วนี่ก็ มีนา 67แล้ว แล้วมันก็รีบ สี่ทุ่มกว่าด้วย เราเลยเดินออกมารอที่ประตูทางเข้า ) สักพัก น้องเรียกให้ไปสแกนคิวอาร์โค้ดเข้ารับการใช้บริการให้ โทรศัพท์น้องไม่มีเน็ต เราเลยไปสแกนให้ ใส่ข้อมูลคนป่วยเรียบร้อย ระบบ สปสช แจ้งเตือนในไลน์ว่า กรุณารอเจ้าหน้าที่ เราบอกน้องว่าเสร็จแล้ว เลยกลับมารอที่เดิม ซึ่งไม่ไกลกันมาก แล้วน้องกวักมือเรียกอีกครั้ง พอเราเดินเข้าไป เจ้าหน้าที่ 2 คนพูดแบบน้ำเสียงไม่ดีว่า สแกนรึยัง สแกนได้ไม่ได้ก็ไม่บอก จะรู้มั๊ย เราเลยตอบไปว่า สแกนแล้ว เสร็จแล้ว เจ้าหน้าพูดขึ้นมาอีกว่า = เลขบัตรประชาชนใส่รึยัง เราเลยสแกนให้ดูอีกรอบว่ามันเข้าระบบสำเร็จแล้ว แล้วหันหน้าจอมือถือไปให้ดู เราเลยพูดว่า = นึกว่าสแกนเช็คอิน ก็ไม่รู้เพราะไม่เคยมาใช้บริการ สรุปคือคุณมึงไม่เช็คระบบ นั่งเล่นโทรศัพท์ มันควรจะเข้าระบบตั้งมีไลน์แอดเด้งเข้ามาที่เครื่องเราแล้ว หรือควรจะบอกเราดีๆก็ได้ ว่าสแกนแล้วแจ้งด้วยนะคะ หรือสแกนใส่ข้อมูลแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะ คุณง่วง คุณเหนื่อย เรารู้ เราก็เหนื่อยงานของเรามาทั้งวันเหมือนกัน แต่ใจเขาใจเรา ถ้าไม่ชอบงานบริการ ก็ควรจะหางานที่เหมาะสมกับตัวเอง #เงินเดือนคุณก็มาจากภาษีของประชาชน

แย่มากคะ ตึกผู้ป่วยในคือห่วยมาก ทั้งPN/NA คือมีหน้าที่แค่วัดความดันหรือ คนไข้นอนโรงบาล ผ้าเปื้อนขนาดไหนก้ปล่อยให้อยู่สภาพนั่น ผ้าเปียก ผ้าเลอะเลือดก้ปล่อยไว้แบบนั่น ถ้าญาติไม่มาเยี่ยมมาเปลี่ยนให้ ก้ต้องนอนอยู่แบบเน่าๆ แย่มากคะ ไม่ดูโรงบาลอื่นเขาบ้างนะ เบสบาสคนไข้วันละ2ครั้ง ไม่เคยปล่อยให้อยู่แบบสรกปแบบนี้ ที่นี่ไม่ได้เรื่อง

จริงๆไม่อยากเบลมนะ แต่อยากให้พัฒนา การที่คนไข้ไปฉุกเฉินจิงๆนะ ฉุกเฉินต้องรอบัตรตัวจริงมาเสียบถึงจะทำการรักษาต่อได้ งงเหมือนกัน มันมีระบบออนไลกันหมดแล้ว เช็คประวัติเบื้องต้นให้ก่อนก็ได้มั้งไม่ใช่ต้องรอบัตรประชานชนอย่างดียวซึ่งเลข13หลักกับรูปถ่ายบัตรก็น่าจะเช็คสิทธิ์ได้ ซึ่งพอกลับไปเอาบัตรตัวจริงมาให้บอกไม่ต้องใช้แล้ว มันเสียเวลากลับไปเอามาก น้องชุดเหลืองก็ช่วยพูดจาให้ดีนิดหนึ่ง นี่ก็เป็นพยาบาลเหมือนกันตอนเราทำงานไม่เคยพูดจาแบบนี้กับคนไข้เลย แต่มาเจอแบบนี้ก็เซ็ง เกิดเหตุวันที่12/5/67 เวรบ่าย ไม่แน่ใจว่า ER หรือ OPD extend ส่วนน้องพยาบาลพูดจาดีค่ะ ชื่นใจมานิดนึง จบ

เเย่มากค่ะ เเย่สุดๆ พยาบาลพูดจาหยาบคาย หมอก็พูดจาเเรง มีอยู่เคสนึงค่ะเห็นเเล้วรับไม่ได้ เตียงข้างๆมีเด็กชัก พ่อเเม่ก็ใจสลาย ร้องไห้เป็นห่วง คนที่เป็นพ่อเป็นแม่น่าจะเข้าใจ แม่ร้องไห้ไม่หยุด พยาบาลก็ไล่เเม่ของน้องออกไปไกลๆไล่ได้เสียงเกลียดชัง หมอก็พูดขึ้นว่า มีคนต้องดูเเลเป็นร้อยมาเสียเวลากับเเค่เตียงเตียงเดียวทำให้คนอื่นเดือดร้อน พยาบาลก็ว่าแม่เด็ก ดูลูกเเล้วยังจะให้ดูแม่มันอีกหรอไปร้องไกลๆไปออกไปเลยไปทางใหนก็ไปอย่ามาวุ่นวาย เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะเป็นห่วงลูกเเทบขาดใจ เด็กชักน่ากลัวใครไม่เคยเห็นไม่เคยเป็นก็จะใจหายเเทนมากๆ หมอพยาบาลรวมหัวกันดุว่าเเม่น้อง .เเบบนี้ ไม่อยากดูเเลรักษา เบื่อคนป่วยเเล้วจะอยากเป็นทำไม(บางคนก็ดีค่ะ เฉพาะบางคน)ส่วนมากเเย่ค่ะไม่มีคนเขาอยากไปเพราะเเบบนี้เเหล่ะข่าวลือเต็มว่าหมอบ้านด่านพูดจาหยาบคาย

คุณพ่อมาด้วยอาการเวียนศรีษะ เวลา 14:30น. (คนไข้น้อยมาก) ล่วงเลยเวลาจนถึง 16:00น. จนแพทย์ที่จะตรวจด้วยออกเวร เลยต้องรอแพทย์เวรคนใหม่มาตรวจแทน กระทั่งไปรับยามาฉีดที่ ER ฉีดเสร็จไม่มีการแจ้งใดๆ จนต้องเข้าไปถามเอง ถึงได้คำตอบจาก ผช พยาบาล ประจำ ER ที่ใช้น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร ด้วยความที่อยู่ใกล้บ้าน เลยเชื่อใจที่จะมาใช้บริการ (ปกติเข้าคลินิก) ถ้ามีดาว 0 ดวง ก็คงให้ “ 0 ” ถึงตอนนี้เวลา 16.49น. ก็ยังไม่เสร็จ พยาบาลก็ออกเวรแล้ว👎🏻 สิ่งที่ควรปรับปรุงเร่งด่วนคือ ขั้นตอนที่ซับซ้อน เพราะบุคคลากรมีเพียงพอแล้ว