Foot Clinic by TALON@พระราม 2

วันนี้ทำงานวันแรกในรอบหลายเดือน ถือโอกาสใส่รองเท้าTALONคู่ใหม่...ใส่นุ่มสบายมากๆ...ตัดสินใจถูกมากเลย..ที่ซื้อรองเท้าคู่นี้..REBECCA LIM😊

มาลองดูก่อน

สวมใส่เดินสบาย หมดปัญหารองเท้าบีบ

ไปพบคุณหมอด้วยอาการ ตื่นนอนตอนเช้าแล้วเวลาลุกเดินใน2-3ก้าวแรกจะเจ็บบริเวณเท้าขวาด้านใน ก็ได้รับคำแนะนำจากร้านและคุณหมอให้ตัดรองเท้าพร้อมแผ่นรอง รวมทั้งค่าหมอและค่ารองเท้าพร้อมแผ่นรอง อยู่ที่ ราคา 11,980 บาท ซึ่งเป็นเงินที่สูงมาก เทียบเท่าเงินเดือนของคนงานบางกลุ่มเลย.. ตัวเราก็มีความคาดหวังว่าจะดีและคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป เมื่อได้รองเท้ามา เราก็ค่อยๆใส่ และค่อยๆเพิ่มเวลาตามคำแนะนำ (เจ้าหน้าที่ของร้านแนะนำวิธีการใส่รองเท้าอย่างดีนะคะ) แต่ผลปรากฎว่า ในครั้งแรกที่ใส่ ใส่ปุบคือเรารู้สึกปวดเท้าข้างขวาปับเลย แต่ก็คิดว่า 'เอ่อ คงไม่ชิน' ก็เลยพยายามใส่ และปรับเวลาเอา แต่ก็ยังไม่หาย ยิ่งใส่ยิ่งปวด ส่วนเท้าซ้ายแค่รู้สึกไม่สบายเท้าเฉยๆ หลังจากที่ใส่ๆถอดๆ อยู่เกือบๆเดือน มีอาการที่สำคัญคือปวดมาถึงหลังเลย ตอนแรกคิดว่าไม่เกี่ยวกับรองเท้า แต่พอหยุดใส่ คือเบาปวดไปเลย วันสุดท้ายที่รู้ไม่ไหวละ คือ ใส่รองเท้าคู่นี้ประมาณ6ชม. ปวดจนรู้สึกทนไม่ไหวต้องถอดรองเท้าเดิน ส่วนเท้าซ้ายจากที่ไม่ปวดก็ปวดขึ้นมาถึงไม่มากเท่าข้างขวาแต่ก็คือปวด ปรึกษาร้าน ร้านให้เอารองเท้าเข้าไปปรึกษาคุณหมอ ซึ่งก็ต้องหยุดงานและเข้าไปพบคุณหมอ สรุปต้องแก้แผ่นรองและสายคาดรองเท้า และให้กลับมาใช้งาน เป็นการแก้ไขครั้งแรก หลังจากได้รับการแก้ไขครั้งแรก พอใส่รองเท้าก็ยังคงรู้สึกปวดเท้าและแนวหลังมากแต่ไม่มากเท่าครั้งแรก และไม่กล้าที่จะใส่นานๆถึง6 ชม.อีกแล้ว ต่อมาก็ได้มีโอกาสส่งรองเท้ากลับไปให้ร้านแก้ไข เป็นรอบที่2 ผลปรากฎว่า ไม่ได้มีอาการอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรอบแรกเลย ทางร้านก็จะให้เราวิ่งเข้าไปที่ร้านอีก เพื่อให้ปรึกษาคุณหมออีกครั้ง แต่คือเหนื่อยและรู้สึกขยาดแล้ว ไม่อยากกลับไปอีก เพราะแค่การตัดรองเท้ามาใส่คู่หนึ่ง ในราคาหมื่นกว่าบาท มันไม่น่าจะต้องมีอะไรยุ่งยากหรือซับซ้อนขนาดนี้ แก้ไขแค่ครั้งหรือสองครั้ง ก็น่าจะเกินพอแล้ว แต่นี่ยังไม่จบ 'คือเหนื่อย รู้สึกว่าไม่ได้ช่วยอะไร แถมทุกข์ใจ วุ่นวายใจอีก' สรุป เสียเงินซื้อรองเท้า ในราคาสูงเท่ากับเงินเดือนของคนงานบางคน แต่กลับไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา แถมยังเป็นปัญหาหนักกว่าเดิม รู้สึกเหนื่อยใจมากค่ะ หมายเหตุ:.ตอบกลับร้านค้า ไม่อยากให้เข้าใจผิดนะคะ ประการที่1.ที่ตอบกลับดิฉันมาว่าติดต่อไม่ได้ คือติดต่อดิฉันไม่ได้เป็นความจริงหรือคะก็ในเมื่อวันก่อนยังคุยกับช่างรองเท้าของร้านนี้อยู่เลยว่าที่แก้มามันยังเป็นปัญหาเหมือนเดิมนะ และทั้งนี้ทั้งนั้นเบอร์โทรก็มีและทางไลน์ก็แอดกันไว้ตั้งนานแล้ว ทางร้านให้ข้อมูลไม่ตรงความจริงหรือเปล่าคะ ส่วนการแก้ไขนั้น ทำมาสองรอบแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยให้อาการปวดหายไป เป็นความผิดพลาดในการทำของร้านแท้ๆ แต่จะให้ลูกค้าวิ่งไปวิ่งมาตลอด ดิฉันก็มีกิจการงานที่ต้องทำนะคะ จะให้หยุดงานไปแก้รองเท้าหรือคะ ทำไมร้านไม่ทำรองเท้ามาให้ดีครั้งเดียวจบ ถ้าซื้อรองเท้าระดับ10000กว่าบาท แล้วยังต้องวุ่นวายซ้ำซากแบบนี้ ลองถามลูกค้าคนอื่นหรือยังคะ ว่าเค้าคิดอย่างไร ทางร้านเข้าใจอะไรผิดหรือป่าวคะ ว่าลูกค้าต้องการความรับผิดชอบด้วยการแก้ไขโดยไม่คิดค่าซ่อมหรือค่าหมอหรือลูกค้าต้องการรองเท้าที่ดีมีคุณภาพ จ่ายเงินครั้งเดียวจบเอามาใส่ได้เลย นอกจากนั้น ทางร้านก็ไม่พูดความจริงอีก (เรื่องไม่เคยมีใครรีวิวด้านลบเลย) เช่น ลูกค้าต่างชาติชื่อ hanjun kim ที่โพสทำนองว่า เสียเงินเปล่า10000บ.สำหรับรองเท้าที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาเท้าของเขาเลย เป็นต้น .. ประการที่2จากคนที่ใส่รองเท้าทั่วๆไปไม่เคยปวดเท้าหรือปวดหลัง พอใส่รองเท้าที่สั่งตัดมาแล้วปวดไปถึงหลัง แก้ไขสองรอบก็ไม่ได้ดีขึ้น เป็นคุณไม่เหนื่อยใจหรอคะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความพอใจหรือไม่พอใจเลยแต่ เป็นเรื่องของอาการภายหลังใส่รองเท้าร้านนี้ล้วนๆ และถ้ารองเท้าคู่นี้มันถูกต้อง ช่วยได้จริงจะมีหรือ?ที่ลูกค้าจะไม่พอใจ ดังเช่น ชาวต่างชาติคนนั้นเมื่อรองเท้าไม่ได้ช่วยเขาได้จริง เขาก็ให้1ดาว ส่วนการรีวิว ดิฉันรีวิวในส่วนตัวของดิฉัน ไม่เกี่ยวกับใคร แต่ในเมื่อคุณอ้างคนอื่นเข้ามาด้วย ก็ตอบให้ค่ะ รองเท้าคู่แดงของคุณแม่ที่อายุ93ปี ที่ได้มาในครั้งแรก ข้างหนึ่งใส่เท้าเข้าไปไม่ได้เลย ส่งไปแก้มา1รอบ ใส่ได้ แต่เดินแล้วไม่มั่นคงจะล้ม ประกอบกับขาคุณแม่สั้นยาวไม่เท่ากัน ประมาณ2.8-3ซม. แต่ร้านเสริมมา1ซม. เวลาใส่สะโพกก็บิดไปอีก แม่เขาใส่ไม่ได้ทรมานคนแก่มากมาย..สรุป ก็เลยหยุดไม่แก้ไขกับร้านนี้ต่อไปเพราะทำไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นและเสียเวลา สุดท้ายนี้ ก็เป็นเพราะว่าดิฉันผิดเองที่เชื่อในคำโฆษณาและมาตัดรองเท้ากับอินโซลและคงเป็นความโชคร้ายของดิฉันเองค่ะ ที่เลือกซื้อรองเท้าร้านนี้